โรคปอดติดเชื้อ ภาวะอันตรายของโรคปอด อาจเสี่ยงถึงชีวิต!

[siritidaphon]

โรคปอดติดเชื้อ ภาวะอันตรายของโรคปอด อาจเสี่ยงถึงชีวิต!

โรคปอดติดเชื้อ หรือ ปอดอักเสบ (Pneumonia) เป็นภาวะที่ร้ายแรงและเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูง การติดเชื้อนี้ทำให้เกิดการอักเสบของถุงลมและเนื้อเยื่อปอด ส่งผลให้ปอดไม่สามารถทำงานแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้


สาเหตุหลักของการติดเชื้อที่ปอด

การติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดจากการที่เชื้อโรคเข้าสู่ปอดผ่านทางการหายใจ หรือแพร่กระจายมาจากอวัยวะอื่น ๆ ผ่านทางกระแสเลือด โดยเชื้อที่พบบ่อย ได้แก่:

เชื้อแบคทีเรีย: เป็นสาเหตุที่พบบ่อยและมีความรุนแรง มักต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ

เชื้อไวรัส: เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza), โควิด-19 (COVID-19) หรือไวรัส RSV

เชื้อราและพยาธิ: พบในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง


ภาวะอันตรายและแทรกซ้อนที่เสี่ยงถึงชีวิต

ความอันตรายของปอดติดเชื้อไม่ได้จำกัดอยู่แค่การอักเสบที่ปอดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่เกิดขึ้นตามมา หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที:

ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง   ลักษณะอันตราย

1. ระบบหายใจล้มเหลว                                          ถุงลมในปอดเต็มไปด้วยหนองและของเหลว ทำให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนล้มเหลว ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำลงอย่างมาก ผู้ป่วยจะหอบเหนื่อยรุนแรง และอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

2. ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (Sepsis/Septic Shock)   เชื้อโรคจากปอดแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือด และทำลายระบบอวัยวะอื่น ๆ ทั่วร่างกาย ทำให้ความดันโลหิตต่ำ (ช็อก) การทำงานของไต ตับ หรือหัวใจล้มเหลว ซึ่งเป็นภาวะที่นำไปสู่การเสียชีวิตสูงมาก

3. ฝีในปอด (Lung Abscess)                                     เกิดหนองสะสมเป็นโพรงในเนื้อปอด หากไม่รักษาต้องมีการระบายหนองออก และอาจใช้เวลารักษานาน

4. ภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด (Pleural Effusion)             มีของเหลวหรือหนองสะสมอยู่ในช่องว่างระหว่างปอดและผนังทรวงอก ทำให้ปอดขยายตัวได้ไม่เต็มที่ ต้องเจาะระบายออก

5. ภาวะอาการซึม/สับสน                                             พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เนื่องจากภาวะขาดออกซิเจนหรือการติดเชื้อที่รุนแรง ทำให้การทำงานของสมองผิดปกติไป ซึ่งบ่งชี้ถึงการติดเชื้อที่รุนแรงมาก
 

ใครคือกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังเป็นพิเศษ?

ผู้สูงอายุ (ตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป): มีภูมิคุ้มกันต่ำ และมักมีโรคประจำตัวร่วมด้วย

เด็กเล็ก (อายุน้อยกว่า 5 ปี): ระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่สมบูรณ์

ผู้มีโรคเรื้อรัง: เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจวาย โรคปอดเรื้อรัง (COPD) และโรคไต

ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง: เช่น ผู้ป่วย HIV ผู้ที่รับยาเคมีบำบัด หรือยากดภูมิคุ้มกัน

ผู้ที่สูบบุหรี่ หรือดื่มสุราเป็นประจำ

หากคุณหรือคนที่คุณดูแลอยู่ในกลุ่มเสี่ยง และมีอาการไข้สูง หนาวสั่น ไอมีเสมหะ และ/หรือเหนื่อยหอบอย่างรวดเร็ว ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง ก่อนที่อาการจะลุกลามจนเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง