ผู้เขียน หัวข้อ: Doctor At Home: โรคหัด (Measles)  (อ่าน 9 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 554
    • ดูรายละเอียด
Doctor At Home: โรคหัด (Measles)
« เมื่อ: วันที่ 14 สิงหาคม 2025, 16:31:09 น. »
Doctor At Home: โรคหัด (Measles)

โรคหัด (Measles) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่ติดต่อกันได้ง่ายมาก พบได้บ่อยในเด็ก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงวัย เป็นโรคที่ไม่ควรประมาทเนื่องจากอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้


สาเหตุและการติดต่อ

สาเหตุ: โรคหัดเกิดจากเชื้อไวรัส Measles Virus หรือ Rubeola Virus

การติดต่อ: เชื้อไวรัสจะอยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูก และน้ำลายของผู้ป่วย สามารถแพร่กระจายผ่านทางการไอ จาม หรือการหายใจเอาละอองฝอยที่มีเชื้อเข้าไป โดยผู้ป่วยจะสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ช่วง 4 วันก่อนมีผื่นขึ้น จนถึง 4 วันหลังผื่นขึ้น


อาการของโรคหัด

อาการของโรคหัดมักจะเริ่มจากอาการคล้ายไข้หวัดก่อนจะตามมาด้วยผื่นที่เป็นลักษณะเฉพาะของโรค

ระยะแรก (3-4 วัน): จะมีไข้สูง น้ำมูกไหล ไอ ตาแดง และอาจมีอาการถ่ายเหลว

จุดในปาก (Koplik's Spots): หลังจากมีไข้ประมาณ 2-3 วัน อาจพบจุดสีเทาขาวเล็กๆ ในกระพุ้งแก้ม ซึ่งเป็นสัญญาณเฉพาะของโรคหัด

ผื่นขึ้น: หลังจากมีไข้ 3-4 วัน จะเริ่มมีผื่นสีแดงเป็นปื้น โดยจะเริ่มขึ้นจากบริเวณไรผม หน้า ลงมาที่ลำตัว แขน และขา และผื่นจะค่อยๆ จางหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์

การรักษา
ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคหัดโดยเฉพาะ การรักษาจึงเป็นการรักษาตามอาการเพื่อบรรเทาความเจ็บป่วย ได้แก่


การให้ยาลดไข้

การให้สารน้ำและอาหารอย่างเพียงพอ

การพักผ่อนให้เพียงพอ

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น: แม้โรคหัดจะหายได้เอง แต่ในบางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น ปอดบวม หูอักเสบ หรือสมองอักเสบ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

การป้องกัน
การป้องกันโรคหัดที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือ การฉีดวัคซีนรวมหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (MMR) ซึ่งเป็นวัคซีนที่อยู่ในแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข โดยทั่วไปจะฉีด 2 เข็ม

เข็มแรก: อายุ 9-12 เดือน

เข็มที่สอง: อายุ 4-6 ปี (ก่อนเข้าโรงเรียน)

นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วย และการล้างมือบ่อยๆ ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อได้