ผู้เขียน หัวข้อ: ออล นิว ไทรทัน: 𝑨𝒍𝒍-𝑵𝑬𝑾 𝑻𝑹𝑰𝑻𝑶𝑵 รุ่นย่อย และ ราคาจำหน่าย  (อ่าน 20 ครั้ง)

siritidaphon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 241
    • ดูรายละเอียด
ออล นิว ไทรทัน: 𝑨𝒍𝒍-𝑵𝑬𝑾 𝑻𝑹𝑰𝑻𝑶𝑵 รุ่นย่อย และ ราคาจำหน่าย

All New Mitsubishi Triton The Disruptor

All New Mitsubishi Triton ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 กรกฎาคน 2566 ที่ผ่านมา เรียกว่าปฏิวัติวงการรถกระบะด้วยดีไซน์ใหม่หมดหัวจรดท้าย เครื่องยนต์ใหม่ Hyper Power 2.4L เทอร์โบแปรผัน เจนเนอเรชันล่าสุด พัฒนาใหม่หมด ขุมพลัง 184 แรงม้า และแชสซีส์ใหม่ Mega Frame ที่ใหญ่ขึ้น แกร่งขึ้น เร็ว แรง เต็มสมรรถนะออกแบบมาในคอนเซปต์ แข็งแกร่ง ขับสนุก ไปได้ทุกที่ กล้าลุยทุกพื้นที่ ปราดเปรียว คล่องตัว ออกแบบล้ำสมัย

Single Cab

    2.4 Pro MT (4WD) ราคาจำหน่าย 699,000 บาท
    2.4 Pro AT (4WD) ราคาจำหน่าย 749,000 บาท

Double Cab

    2.4 Pro MT (2WD) ราคาจำหน่าย 820,000 บาท
    2.4 Prime AT (2WD) ราคาจำหน่าย 893,000 บาท
    2.4 Prime MT (2WD) ราคาจำหน่าย 938,000 บาท
    .4 Ultra MT (2WD) ราคาจำหน่าย 982,000 บาท
    2.4 Ultra AT (2WD) ราคาจำหน่าย 1,027,000 บาท
    2.4 Prime AT (4WD) ราคาจำหน่าย 1,016,000 บาท

พวงมาลัยจับถนัดมือ

ปรับระดับ 4 ทิศทาง (Tilt and Telescopic Adjustable) พร้อมสวิตช์ควบคุมมัลติฟังก์ชัน (Multi-Function Steering Wheel)
ขุมพลังใหม่ แรงเต็มสมรรถนะ มั่นใจทุกการขับเคลื่อน

เต็มพลัง พร้อมตอบสนองทันใจกับขุมพลังใหม่ HYPER POWER เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2.4ลิตร เทอร์โบแปรผัน เจนเนอเรชันล่าสุด พัฒนาใหม่หมด
4N16 High power (HP)

    เครื่องยนต์ 4 สูบ เรียง DOHC 16V
    VG Turbo เทอร์โบแปรผัน ควบคุมด้วยไฟฟ้า
    อินเตอร์คูลเลอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศ
    แรงม้าสูงสุด 184PS (135kW) / 3,500 RPM รอบต่อนาที
    แรงบิดสูงสุด 430Nm / 2,250-2,500
    รอบรับ B20

เครื่องยนต์ออกแบบใหม่

    ลดนํ้าหนัก และออกแบบหัวลูกสูบ เครื่องตอบสนองการทํางานดีขึ้น
    เปลี่ยนความยาวก้านสูบ
    ลดนํ้าหนักมูเล่หน้าเครื่อง
    เปลี่ยนตําแหน่งเพลาถ่วงสมดุลย์ (Balancer shaft) ใหม่
    ปั้ม และหัวฉีดออกแบบใหม่ แรงดันสูงขึ้น
    เพิ่มเซนเซอร์ในการตรวจสอบการทํางานเครื่องยนต์
    ท่อไอเสียใหม่

แชสซีส์ใหม่ ใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น แต่เบาลง

MEGA FRAME โครงสร้างพัฒนาใหม่หมด ด้วยเหล็กแรงดึงสูง High-Tensile Steel ขนาดใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น แต่มีน้ำหนักเบาลง ทำงานผสานกับช่วงล่างและระบบกันสะเทือนใหม่ ที่รองรับการบรรทุกหนักและยึดเกาะถนนดีเยี่ยม

ACTIVE YAW CONTROL (AYC)

ปลอดภัยกว่าด้วยระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง โดยระบบจะควบคุมการทำงานของล้อด้านในโค้งกับล้อด้านนอกโค้งให้หมุนสัมพันธ์กัน เพื่อรักษาเสถียรภาพการเข้าโค้งอย่างแม่นยำ

Active LSD (ชนิดควบคุมด้วยเบรก)

คือฟังก์ชันที่ให้รถผ่านอุปสรรคต่างๆ บนเส้นทาง ออฟโหลดได้ง่ายขึ้นโดยตรวจจับการลื่นไถลจองล้อและเบรกที่ล้อนั้นเพื่อให้กําาลังจาก เครื่องไปหมุนล้อฝั่งตรงข้าม จึงทําให้จับผ่านอุสรรคต่างๆ ได้ง่าย

ระบบนี้ไม่เหมาะกับเส้นทางที่ทุระกันดารมากๆ มีระยะทางยาว (ควรใช้ R/D Lock)

SUPER SELECT 4WD II

เทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ เอกลักษณ์เฉพาะที่เหนือกว่า มั่นใจในการขับขี่ทุกสภาพถนน สามารถปรับเปลี่ยนเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full-Time All Wheel Control (4H) ได้อย่างง่ายดายเมื่อต้องการทำความเร็วบนถนนที่เปียกลื่น เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้น

จากเทคโนโลยี 4WD ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เราได้พัฒนาระบบขับเคลื่อน DRIVE MODE พร้อมเทคโนโลยีการควบคุม โหมดการขับเคลื่อนแต่ละ โหมดเพื่อให้ได้สมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่นสําหรับพื้นผิวถนนแต่ละประเภท
ระบบการขับเคลื่อนในสภาพถนนต่างๆ

สภาพถนนปกติ

ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เหมาะสำหรับการขับขี่บนสภาพถนนปกติ ให้อัตราเร่งที่ดี และประหยัดน้ำมัน เพราะกำลังของเครื่องยนต์ทั้งหมด 100% จะถูกส่งไปยังล้อคู่หลังเท่านั้น
สภาพถนนเปียก

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำงานแบบ Full-Time All Wheel Control เหมาะกับสภาพถนนเปียกลื่นที่ใช้ความเร็ว ระบบส่งกำลัง Torsen (Torque Sensitive Type) จะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อหน้า 40% และล้อหลัง 60% บนถนนแห้ง และล้อหน้า 50% และล้อหลัง 50% เมื่อถนนเปียกลื่น เพื่อประสิทธิภาพในการเกาะถนนและความปลอดภัย

สภาพถนนขรุขระ

ระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้ง 4 โดยมีระบบ Center Differential Lock ทำหน้าที่ส่งกำลังในอัตราส่วนล้อหน้า 50% และล้อหลัง 50% เท่ากันตลอดเวลา เหมาะสำหรับสภาพเส้นทางขรุขระ แต่ยังสามารถใช้ความเร็วได้ หรือเส้นทางที่มีพื้นผิวแบบลื่นไถล (ในตำแหน่งนี้ไม่ควรใช้บนถนนแห้ง)
สภาพเส้นทางวิบาก

ระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้ง 4 โดยมีระบบ Center Differential Lock ทำงานร่วมกับระบบล็อกเฟืองท้ายหลัง (Rear Differential Lock) ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ในการส่งกำลังในอัตราส่วนล้อหน้า 50% และล้อหลัง 50% เท่ากันตลอดเวลา และเกียร์ส่งกำลัง (Transfer Gear Ratio) จะเพิ่มอัตราทดให้สูงขึ้น ช่วยทำให้กำลังการขับเคลื่อนมีมากขึ้น เหมาะสำหรับสภาพเส้นทางที่วิบาก ลุยโคลน เส้นทางแบบมีเนินหินสลับ หรือมีความลาดชันมากๆ (ในตำแหน่งนี้ไม่ควรใช้ความเร็วเกิน 70 กม./ชม.)

เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ

ระบบความปลอดภัย DIAMOND SENSE ช่วยตรวจสอบความเคลื่อนไหวและสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ ด้วยเซนเซอร์และเรดาร์ที่ละเอียด แม่นยำ พร้อมปกป้องคุณให้ปลอดภัยในทุกเส้นทางที่ไปในแบบ 360 องศา

ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ – AUTOMATIC HIGH BEAM (AHB)

ไฟสูงจะทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อแสงสว่างจากภายนอกไม่เพียงพอและปรับลงเป็นไฟต่ำเมื่อตรวจสอบพบแสงสว่างจากรถคันหน้าที่วิ่งสวนมา
(เฉพาะรุ่น ULTRA)

กล้องมองภาพรอบคัน – MULTI AROUND VIEW MONITOR (MAM)

ทำงานผ่านกล้อง 4 ตำแหน่ง รอบตัวรถ เพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบายในการจอดรถ
หมายเหตุ : ระยะการจับภาพของกล้องมองภาพรอบคัน เป็นเพียงภาพจำลองเพื่อความเข้าใจเท่านั้น
(เฉพาะรุ่น ULTRA)

ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา พร้อมระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน – BLIND SPOT WARNING with LANE CHANGE ASSIST (BSW with LCA)

ระบบจะตรวจจับรถคันอื่นที่วิ่งอยู่ในเลนถัดไปทางด้านหลังในระยะประมาณ 70 ม. และส่งสัญญาณไฟเตือนบนกระจกมองข้างให้ผู้ขับขี่ทราบว่ามีรถอยู่ในจุดอับสายตา ซึ่งอาจไม่สามารถมองเห็นจากกระจกมองข้าง และในขณะเดียวกันหากเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ระบบจะส่งเสียงเตือน พร้อมสัญญาณไฟกะพริบบนกระจกมองข้างเพื่อความปลอดภัยในการเปลี่ยนช่องจราจร
(เฉพาะรุ่น ULTRA)

ระบบเตือนด้านหลัง ขณะถอยออกจากช่องจอด – REAR CROSS TRAFFIC ALERT (RCTA)

เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง หากเซนเซอร์ด้านหลังตรวจพบรถคันอื่นเข้ามาในรัศมีการตรวจจับ ระบบจะส่งเสียงเตือน และสัญญาณไฟกะพริบบนกระจกมองข้างทั้ง 2 ด้าน พร้อมแสดงข้อความเตือนบนหน้าจอแสดงผล
(เฉพาะรุ่น ULTRA)

ถุงลม 7 ตำแหน่ง

ถุงลมคู่หน้า ด้านข้าง หัวเข่าผู้ขับขี่ และม่านถุงลม ช่วยลดความรุนแรงที่เกิดจากการชนทั้งด้านหน้า และด้านข้าง ทำงานร่วมกับเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ
(เฉพาะรุ่น ULTRA)

ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์

ทำงานประสานกับระบบเบรก ABS เพื่อให้เกิดการกระจายแรงเบรกอย่างเหมาะสมทั้ง 4 ล้อ ช่วยลดระยะเบรกให้สั้นลง
ระบบเสริมแรงเบรก

ระบบเสริมความปลอดภัย โดยใช้เรดาร์ประเมินระยะห่างจากรถคันหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถคันหน้าในช่องทางเดียวกัน ระบบจะทำการเตือนและช่วยชะลอความเร็ว พร้อมเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกเพื่อให้ประสิทธิภาพในการเบรกที่ดียิ่งขึ้น และบรรเทาความเสียหายจากการชน
(เฉพาะรุ่น ULTRA)